นักวิจัย ม.สงขลานครินทร์ สำรวจพบ “มดยักษ์ปักษ์ใต้หรือมดไม้ยักษ์” บริเวณเขาคอหงส์ ชี้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์

นักวิจัย ม.สงขลานครินทร์ สำรวจพบ “มดยักษ์ปักษ์ใต้หรือมดไม้ยักษ์” บริเวณเขาคอหงส์ ชี้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์

 

ดร.อับดุลเลาะ ซาเมาะ นักวิจัย ประจำพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารีฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า มดตะลานยักษ์ปักษ์ใต้หรือมดไม้ยักษ์ มีชื่อสามัญ : The Giant Forest Ant, และมีชื่อวิทยาศาสตร์ : Dinomyrmex gigas Latreille, 1802 เป็นมดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (ประมาณ 20.9 มิลลิเมตร สำหรับวรรณะงาน และ 28.1 มิลลิเมตร สำหรับวรรณะทหาร) และจัดเป็นมดประจำถิ่น (native) ของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ มีเขตกระจายพันธุ์ในหลายประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ ในประเทศไทยพบแพร่กระจายเฉพาะในภาคใต้เท่านั้น ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจนถึงสุดคาบสมุทรมลายู

มดยักษ์ปักษ์ใต้ ลำตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะ ส่วนหัวและส่วนอกมีสีดำ ในขณะที่บริเวณส่วนท้องมีสีน้ำตาลอมแดง มีเอว 1 ปล้องสังเกตเห็นได้ชัด มดงานมีขนาดและรูปร่างหลายรูปแบบ (polymorphism) มดชนิดนี้มีความว่องไวเป็นพิเศษในเวลากลางคืน (nocturnal insect) จะบริโภคอาหารหลากหลายรูปแบบ เช่น น้ำหวาน แมลงขนาดเล็ก มูลเหลวของนก เป็นต้น พบมากตามบริเวณพื้นป่าจนถึงระดับไม้เรือนยอดในพื้นที่มีความชื้นค่อนข้างสูงและมีการรบกวนจากกิจกรรมของมนุษย์ต่ำ
จากการศึกษาของ Pfeiffer และ Linsenmair ในปี ค.ศ. 2001 ได้รายงานเพิ่มเติมว่า มดไม้ยักษ์จะมีพฤติกรรมครอบครองอาณาเขตและแก่งแย่งแข่งขันระหว่างชนิดและภายในชนิด และที่น่าทึ่งกว่านี้มดไม้ยักษ์สามารถยกวัตถุหรืออาหารที่หนักกว่าน้ำหนักตัวมันเองถึง 50 เท่า

ดร.อับดุลเลาะ กล่าวต่ออีกว่า บริเวณพื้นที่เขาคอหงส์ เป็นเขาลูกโดดและป่ารุ่นสองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจ นักวิจัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้สำรวจพบมดยักษ์ปักษ์ใต้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าบริเวณเข้าคอหงส์บ่อยครั้ง แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้เขาคอหงส์จะเป็นผืนป่าขนาดเล็กๆ ในเมือง แต่กลับเป็นบ้านหลังใหญ่โตที่อุดมสมบูรณ์ให้กับมดเฉพาะถิ่นชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี

“สำหรับพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารีฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติวิทยา โดยเฉพาะชั้นสองของส่วนจัดแสดง มีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของโลกและสิ่งชีวิตอีกนานาชนิดที่พบเจอบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ทั้งนี้ ประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ ทางพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนเรื่องใหม่ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเรืองแสง (Bioluminescent) หากท่านใดสนใจเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวสามารถเข้ามาชมได้” ดร.อับดุลเลาะ กล่าว

พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารีฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดให้บริการตั้งแต่วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 9.00-16.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โทร. 0-7428-8067-8 เว็บไซต์ https://nhm.psu.ac.th/ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทางพิพิธพัณฑ์ฯ ปิดให้บริการในส่วนของนิทรรศการชั่วคราว และจะประกาศวันเปิดให้บริการอีกครั้งภายหลัง

 

Related posts