ทูตฯสวีเดน เข้าพบ นิพนธ์ฯ เสนอความช่วยเหลืองบประมาณพร้อมองค์ความรู้ จัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม น้ำเสีย มลภาวะและความปลอดภัยทางถนน
ที่ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย นายนิโคลัส วีคส์ (Mr.Nicolas Weeks) อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดน ประจำประเทศไทยและคณะจาก Business Sweden เข้าเยี่ยมคารวะ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสวีเดนเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเสีย และนำเสนอโครงการ Swedfund’s accelerator program and support และติดตามผลลัพธ์การประชุมด้านความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 3 (The 3rd Global Ministerial Conference on Road Safety) ที่มีคณะผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วมประชุม โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชีวะ วงศบูรณะ ผอ.องค์การจัดการน้ำเสีย(อจน.) นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)เข้าร่วมหารือด้วย
นายนิโคลัส วีคส์ กล่าวถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศที่ยาวนานหลายร้อยปี ทั้งในระดับพระราชวงศ์ ระดับรัฐบาล และด้านการค้าการลงทุนที่มีการขยายตัวต่อเนื่องทุกปี ในส่วนบทบาทของรัฐบาลสวีเดนต่อการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ ด้านต่าง ๆ อาทิ การรักษาสิ่งแวดล้อม ด้านเทคโนโลยีการจัดการมลภาวะ และการจัดการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งประเทศสวีเดน โดย Swedfund ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสวีเดนที่สนับสนุนงบประมาณแบบให้เปล่ากับหน่วยงานของประเทศพันธมิตรที่มีความสนใจในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งประเทศสวีเดนมีเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญมายาวนาน โดยในปี 2555 Swedfund ได้เคยให้งบประมาณสนับสนุนการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำระบบการจัดการบำบัดน้ำเสียที่เทศบาลนครอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำที่เสื่อมโทรมให้อยู่เกณฑ์คุณภาพที่ปลอดภัยต่อระบบสิ่งแวดล้อมและประชาชน โดยรัฐบาลสวีเดนเล็งเห็นว่า จากความร่วมมือที่เคยมีร่วมกันนี้ จึงประสงค์ให้ประเทศไทย โดยกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้กำกับดูแลองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.)ให้การสนับสนุน และส่งเสริมให้ต่อยอดความร่วมมือในลักษณะนี้ให้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้
ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขอบคุณอุปทูตและรัฐบาลสวีเดนในความปราถนาดี และการสนับสนุนด้านต่างๆตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งนี้ความคืบหน้าในโครงการระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลนครอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร ได้ถูกบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำเสียชุมชนระยะ 20 ปี(พ.ศ.2561-2580) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาอนุมัติแผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำเสียชุมชนระยะ 20 ปี(พ.ศ.2561-2580) และเมื่อได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการแล้ว จะมีการดำเนินงานตามขั้นตอนต่อไป คือการคัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครอ้อมน้อย การก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียและดำเนินงานบำบัดน้ำเสียให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน
นายนิพนธ์ กล่าวต่อด้วยว่า ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ อจน. ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด และมีภารกิจในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชน ประสานงานและให้ความร่วมมือกับ Swedfund ในด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี ด้านการจัดการน้ำเสีย เช่น การนำน้ำที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ การฝึกอบรมเพิ่มทักษะในการปฎิบัติงานของบุคลากรของ อจน. เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ในการดูแลประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจากข้อมูลที่นำเสนอพบว่าการร่วมงานกับ Swedfund ไม่ได้ข้อผูกมัดใดๆ เป็นการให้การสนับสนุนด้านวิชาการ ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยมีความสนใจที่จะให้ Swedfund สนับสนุนการดำเนินงานด้านการจัดการน้ำเสียชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้นในอนาคต ยืนยันว่าประเทศไทยมีความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นการดำเนินงานโครงการระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครอ้อมน้อย จึงเป็นโครงการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำเสียที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้ประชาชน มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตดีขึ้น
นอกจากนี้ รมช.มท. ยังได้แจ้งถึงผลสัมฤทธิ์และการขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนน จากการที่ได้ไปเข้าร่วมประชุมความปลอดภัยทางถนนโลก ครั้งที่ 3 ณ ประเทศสวีเดน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ว่ากระทรวงมหาดไทยในฐานะเลขานุการคณะกรรมการศูนย์ความปลอดภัยทางถนน ได้มีการขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง และปราถนาที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ด้านการเสริมสร้างความปลอดภัยทางถนนระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้นในอนาคตอีกด้วย
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
///////