ระยอง-โครงการปรับปรุงมาตรฐานสินค้าและธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว กิจกรรมศึกษาจัดทำแผนแม่บทและสำรวจออกแบบรายละเอียดและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในขั้นรายละเอียด (EIA)ถนนบูรพาชลทิต (ระยะที่ 2)
วันจันทร์ วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม เงินทอง 5 ชั้น 2 โรงแรมโกลเด้นซิตี้ ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย รองท่านผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงานฯ นายธวัชชัย สุภาผล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระยอง เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมได้รับเกียรติจากผศ.อุทาร พิชญาภรณ์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ ผู้แทนองค์กร ภาคเอกชน ผู้แทนภาคประชาสังคม คณะที่ปรึกษาฯมหาวิทยาลัยบูรพา นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ทวีศักดิ์ เทพพิทักษ์ ผู้จัดการโครงการฯ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุดสายชล หอมทอง อาจารย์พีระ คล้ายริน นายพงศ์ทวี เลิศปัญญาวิทย์ ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม เป็นวิทยากร และผู้เข้าร่วมประชุม เป็นจำนวนมาก
นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย รองท่านผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเปิดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นในโครงการ “โครงการปรับปรุงมาตรฐานสินค้าและธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว : กิจกรรมศึกษาจัดทำแผนแม่บทและสำรวจออกแบบรายละเอียดและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในขั้นรายละเอียด (EIA) ถนนบูรพาชลทิต (ระยะที่ 2 )” ในครั้งนี้
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (หรือ EEC).ขณะนี้ การดำเนินโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของรัฐบาลที่ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดระยอง เช่น การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3.สนามบิน รถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ การก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และถนนเส้นหลักต่างๆ การพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งทุกโครงการได้เริ่มมีผลเป็นรูปธรรมแล้วในขณะนี้
และจากคำกล่าวรายงานได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์และประโยชน์ของโครงการศึกษาในครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาโครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ที่เชื่อมต่อจากถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ระยะที่๑ ให้มีความเชื่อมโยงต่อเนื่อง เกิดความสมบูรณ์ของระบบ โครงข่ายคมนาคม ตลอดจนเพื่อการสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา จังหวัดระยองได้มี
การเติบโตและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกในแหล่งต่างๆ ทั้งที่มีอยู่เดิมและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ยังผลให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และมีการกระจายรายได้สู่ประชาชนในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลประโยชน์ต่อเนื่องสู่การพัฒนาของประเทศโดยส่วนรวม อย่างยั่งยืน และยังสามารถใช้เป็นเส้นทางสำรองในยามจำเป็นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนถนนสายหลักคือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ได้อีกส่วนหนึ่งด้วย
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องมีเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการคิด การตัดสินใจเพื่อให้ได้มาซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุด
หลังจาก วิทยากรโครงการนำเสนอ ได้เปิดโอกาสให้ ภาคส่วนต่างๆ ได้แสดงความคิดเห็น ผู้เข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพื่อนำประกอบพิจารณาโครงการฯด้วย
ชมรมหนังสือพิมพ์และสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง
ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน