(สกู๊ปข่าวพิเศษ)อุตสาหกรรมจะนะ รัฐจะลองทบทวนโครงการก่อน เดินหน้า – ถอยหลัง
หลังจากกระแสการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นผู้ร่วมกรณีโครงการอุตสาหกรรมจะนะ เมื่อ12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นั้น ปรากฎว่ามี ในฝ่ายผู้ที่ไม่เห็นด้วย ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอดูว่า ศอ.บต.จะจัดเวทีเพื่อรับฟังเสียงของพวกเขาบ้าง จนมาถึงบัดนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในส่วนการดำเนินงาน ยังไม่มีการเปิดเผยใดๆ ทำให้เริ่มมีเสียงที่สะท้อนออกมาถึงการกระทำของรัฐที่ยังคลืบแคลง ให้สงสัยว่ามีการปกปิด และไม่โปร่งใสตามมา
ผศ.ดร.บัณฑิต ไกรวิจิตร อจ.คณะมนุษย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า ผมในฐานะนักวิชาการด้านมานุษยวิทยา เห็นว่าขณะนี้มีการประชาสัมพันธ์ฝ่ายเดียว โกหกหลอกลวงประชาชน ซึ่งจะยิ่งเป็นการกระตุ้นประชาชนให้รู้สึกไม่ดีต่อรัฐมากขึ้น ทำไมไม่มีรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเลย ช่วยบอกประชาชนตรงๆไปเลยว่า จะมีโรงงานอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นที่นี่ จะมีคนได้งานกี่คน โรงงานต้องสัมพันธ์กับลักษณะคนในพื้นที่ด้วย ต้องหยุดการประชาสัมพันธ์แบบเกณฑ์คนที่เห็นด้วยให้เค้ายกมือ ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย คุณก็กันเขาออกไป ไม่ให้เข้าร่วม มันเรียกว่าไม่ยุติธรรม
อุตสาหกรรมจะนะที่ต้องทำตอนนี้คือ, ต้องรายงานเรื่องเกี่ยวกับผลของการดำเนินงานและที่ต้องดูแลประชาชน ต้องกลับไปทบทวนและศึกษาใหม่เกี่ยวกับ การพัฒนาโครงการใหญ่ตั้งแต่ต้น เนื่องจากเหตุการณ์นี้มันผิดขั้นตอนสำรวจ ความต้องการ สำรวจผลกระทบที่จะเกิดประชาชนการใช้พื้นที่แบบไหน อย่างไร มีโรงงานที่เกิดขึ้นชนิดไหนบ้าง อุตสาหกรรมไฟฟ้า หรืออุตสาหกรรมหนักประเภทอื่นๆ ทั้งหมดต้องทำแผนให้ชัดเจนทั้งหมด ครอบคลุมรอบด้าน ไม่ใช่ทำไปสร้างไปแล้วเอาโรงงานเข้ามาทีหลัง อนุมัติโครงการไปได้ แล้วให้โรงงานเข้าไปเสียบ อย่างโรงงานที่จะสร้างนี้ ได้ข่าวว่าจะเป็นโรงงานที่ใหญ่เกินความจำเป็นของคนจะนะด้วย และมีโรงงานอุตสาหกรรมหนักที่จะเกิดขึ้นตามมาอีก
ทั้งๆที่เรามีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นแล้วที่อ.สะเดา แต่ก็ไม่ได้ใช้งานท่าไหร่ ไม่คุ้มค่า โนโรงงานอุตสาหกรรมฮาลาล ที่ปัตตานีก็ล้มเหลว ทำไมถึงไม่ไปใช้ให้เต็มที่ ให้ใช้โรงงานมีอยู่แล้วก่อน รวมทั้งขณะนี้ประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจขาลง การลงทุนติดลบ12 เรามีคนตกงานมหาศาล หลังโควิด ขณะนี้เราตกอยู่ในสถารการณ์ขายของไม่ตรงจุด มีปัญหา การแก้ปัญหาคนตกงานก็สะท้อนการพัฒนาไม่ตรงด้าน
อย่างไรก็ตามโครงการนี้ต้องกลับไปทวนใหม่ ต้องมีบริษัทที่ปรึกษา ทำการศึกษาโครงการแล้วนำออกมากางให้ประชาชนเห็นด้วย ว่าจะเกิดอะไรบ้างมีโรงงานกี่โรงงาน ประกอบไปด้วยอะไรบ้างไม่ใช่ทำแบบซ่อนๆ เหมือนในปัจจุบัน และไม่เปิดตัว โครงการนี้รัฐบาลอนุมัติไปแล้วและโดยการหนุนของศอ.บต.ซึ่งเรายังไม่ทราบเลยว่ามีโรงงานอะไรบ้าง แบบนีีจะดีหรือ
ผมคนหนึ่งที่ขอยืนหยัดคัดค้าน จะต่อสู้ว่าโครงการนี้กระทบสิ่งแวดล้อม เกิดผลกระทบกับประชาชนและสร้างความรู้สึกขัดแย้ง ศอ.บต.เองเป็นผู้มีเครื่องมือแก้ไขปัญหาสันติภาพ กลับผลักดันโครงการนี้เสียเอง มีการปกปิดข้อมูล เพราะฉนั้นผมเห็นว่าไม่ควรมีการต่อรองใดๆ ควรกลับไปทบทวนอีกครั้งโดยด่วนที่สุด
ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ การประมง สิ่งแวดล้อม ทั้งหมดต้องกลับไปศึกษาใหม่ทั้งหมด พื้นที่ธรรมชาติทะเลชายริมฝั่งทะเลภาคใต้ ตามชุมชนวิถีชาวเลริมชายฝั่ง เหลือน้อยแล้ว ควรอนุรักษ์ไว้ ให้เป็นวิถีเดิมๆ ที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมเหมือนกับที่.ระยอง เพราะที่ผ่านมาก็มีการคัดค้านมากมายและเกิดผลกระทบมาจนทุกวันนี้ และถ้ามองจากภาพถ่ายดาวเทียมพื้นที่อ่าวไทย ที่มาจากจ.ระยอง มาถึงจ.ประจวบคีรีขันธ์จะมองเห็นอัตราฝุ่นละอองโลหะหนัก ลอยกระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งถ้าเอาพื้นที่ที่ดีที่สุดทางนี้ไปลงทุนอีก มันเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเลย
อจ. มังโสด หมะเต๊ะผู้รับใบอนุญาต รร.สันติวิทย์ อ.จะนะ กล่าวว่า
เริ่มจากจะนะคือในอดีตนี้เป็นแหล่งสถาบัน มีปอเนาะมากมายในพื้นที่ทำการสอนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันมีอยู่ราวๆ 30 กว่าโรงเรียน มีอุลามะอ(นักวิชาการศาสนา ผู้รู้) อาจารย์ ครู มาเปิดรร.เอกชนสอนศาสนา เมื่อครม.เปิดไฟเขียวให้อ.จะนะเป็นเขตอุตสาหกรรม จากข่าวออกมานั้น เรายังไม่รู้เลยว่าจะมีโรงงานอะไรบ้าง จะมีการจ้างงาน.1-2แสนคน เมื่อมีคนจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ ในส่วนของสถาบันการศึกษา ย่อมกังวลถึงผลกระทบที่จะตามมา ว่า เรื่องที่1 คือจะมีแหล่งอบายมุขเข้ามาแน่นอน ผมในฐานะคนจะนะมีเจตนารมณ์ สร้างเมืองแห่งอุลามะอนั้น หลังจากตายไปแล้วจะต้องกลับไปตอบกับพระเจ้าของเขา แล้วรัฐจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เมื่อมันเข้ามาในพื้นที่ เขาจะมาทำลายสังคมของเด็ก ๆ แล้วอุลามะอ เหล่านี้จะป้องกันลูกหลานของเขาอย่างไร จะตอบอย่างไรกับพระเจ้า
เพราะมีอบายมุขเข้ามาเยาวชนของเราก็กลัวจะไปติดกับดักอบายมุขเหล่านั้นได้
เรื่องที่ 2 เมื่อมีโรงงานปิโตรเคมีหรือโรงงานที่เกี่ยวกับภาวะมลพิษ จะต้องมีผลเสียจากภาวะมลพิษผมเคยไปตรวจงานของ สมศ. ให้ดูตัวอย่างที่ จ.ระยอง จ. ชลบุรี อมตะนคร เราเคยไปดูรร.ละแวกนั้น ปรากฎว่าบริเวณนั้นมีเด็กที่เกิดปัญญาอ่อน ไม่สมบูรณ์จำนวนมาก กว่าที่อื่นเหตุเพราะเด็กเกิดจากเมื่อตอนที่ตั้งครรภ์ แม่ได้สูดกลิ่นสารพิษเข้าไปจึงเกิดผลกับลูกตามมา
อีกเรื่องคือ ผมตั้งใจช่วยรัฐบาล เพื่อต้องการแก้ปัญหาความมั่นคง3จชต. ต้องการเปลี่ยนเด็กให้มาเรียนที่นี่มาอยู่ในสังคมจะนะ หนีจากสภาพแวดล้อมของเขาความกดดันผลกระทบ ผมเอามาให้เรียนระดับปวช.สายอาชีพเพื่อให้ได้มีงานทำ ขณะนี้เรารับผิดชอบดูแลเด็กกำพร้าและยากจนด้วย กว่า 230 คนให้เรียนฟรี เพื่ออยากเห็นเด็ก 3 จชต. มีงานทำกินดีอยู่ดี สร้างสังคมดี มีความสุข ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม
สิ่งที่คาดหวังคือ ทำไมรัฐบาลต้องมาทำลายสิ่งเหล่านี้ ทำไมไม่พัฒนาพื้นที่จะนะให้เป็นเมืองแห่งการศึกษาทำไมต้องมาลงที่นี่ ไปสร้างที่อื่นได้ไหม
ถ้ารัฐมนตรีเห็นว่ามันดีจะสร้างให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ไปสร้างบ้านท่านได้ไหมไม่ต้องสร้างบ้านผม ผมอยากให้บ้านเมืองผมเป็นแหล่งทางการศึกษา
ขณะนี้ บรรดาผู้บริหารรร.เอกชนทั้ง28โรงนี้ บางครั้งถ้าถอยจนสุด มันอาจทำไม่ได้ ทางนายทุนก็มีการเตรียมตัวดำเนินงานซื้อที่ทางกันแล้ว
เราก็มาดูกันมาคุยกัน โรงงานอาจเกิดขึ้นได้ แต่เราต้องมาเริ่มกันใหม่ ทำสำรวจทำประชามติ ไม่ต้องประชาพิจารณ์ เอาคนจะนะทั้งหมด อย่าเอาแค่ 3ตำบล การกำหนดแค่ 3 ตำบล เหมือนขีดเส้นกันเอาเฉพาะคนที่เห็นด้วย ซึ่งต้องฟังเสียงคนจะนะทั้งหมด เพราะมันเกี่ยวข้องกัน ทั้งจังหวัดเลย เรามาทำประชามติ โดยเลือกกรรมการที่มีทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม ชาวเล บรรดาครู อาจารย์ เอ็นจีโอ ทุกคนทุกภาคส่วน มาระดมถกความคิดเห็นกันเสร็จแล้วมาวิเคราะห์กัน ถ้าเห็นด้วยเราก็โอเค ที่นนี้ต้องมากำหนดกันว่ามีจะวางกรอบแค่ไหน โรงงานที่เกิดจะเกิดแบบไหน จะเกิดผลกระทบพี่น้องชาวเลได้มากน้อยแค่ไหน สิ่งที่กังวลคือจะกระทบกับรร.จะเกิดได้แค่ไหน อย่างไร .อุตสาหกรรมฮาลาล ทุกคนจะเห็นด้วย แต่ถ้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเคมี และในบางข้อเขียนว่าอุตสาหกรรมเคมีและต่อเนื่อง อันนี้คืออะไร ไม่ชัดเจน ในส่วนของการจัดการอบายมุข จะจัดการอย่างไร จัดโซนอย่างไร จะกำหนดได้ ขนาดไหน อย่าให้มีอาบอบนวด ในพื้นที่ น่าจะเป็นทางออกที่ดีในอนาคต
ถ้า ประชามติทั้งหมด บอกว่าทำได้ เราก็ยอมรับแต่ให้ทำแบบเปิดเผยอย่าทำแบบลับลมคมใน อย่างเช่นศอ.บต.บอกจัดเวที 38 เวทีแล้ว จัดตรงไหน ผมอยู่ตรงนี้ยังไม่เห็นมีเลย
จะมีอยู่รอบเวทีใหญ่คราวที่แล้วรอบเดียว มีการขนคนมา ผมคนนึงที่เป็นฝ่ายค้าน จะเข้าไม่ได้ มีการกันพื้นที่ ระดมจนมาเป็นพันๆคน ปิดทางสัญจร แล้วบอกว่าเป็นเวทีความคิดเห็น อันนี้เราไม่ยอมรับ เพราะฉนั้น ที่บอก30 40เวที นั้นเป็นการหมกเม็ด
วันนั้นทางกลุ่มนั้นออกมาวันต่อมาเราและบรรดาเด็กๆทุกโรง พร้อมออกไปคัดค้านครับ วันก่อนเราไปยื่นหนังสือถึงนายอำเภอส่งต่อถึงรัฐบาลแล้ว รอฟังผลให้พิจารณากันใหม่ ถ้ายังไม่เป็นผล เราพร้อมที่จะเดินถนนเพื่อแสดงพลังเสียงที่ไม่ต้องการโครงการนี้ ขอให้ศอ.บต. ฉุกคิดและฟังเราอีกครั้ง เพื่อจะเป็นการหาทางออกที่ดี ต่อไป
นายใหม่ หมัดเสะ ผญ.บ้านม.1ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี คือโครงการนี้มันใหญ่มากๆต้องเกิดผลกระทบอย่างแน่นอน ในต.ท่ากำชำนี้มีทั้งหมด7 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่ทำประมง กระทบแน่นอน คือในบางระพา ท่ายามู ท่ากำชำตันหยงเปาว์ ภ้าเกิดโปรเจ้คยักษ์ สร้างอะไรใหญ่โตมากๆ ต้องส่งผลกับการทำมาหากินของชาวบ้านแน่นอน
ถ้ามองถึงการจ้างงานแน่นอนทุกคนอยากได้ ผมก็อยากได้ ถ้าเป็นไปได้อยากได้โรงงานขนาดที่ไม่ใหญ่มาก สามารถจ้างคนในพื้นที่ทำงานได้จริง และไท่กระทบสิ่งแวดล้อม ในส่วนของบ้านท่ากำชำนี้ ในการอนุรักษ์ป่าโกงกางนั้นเราเอง ทำมาหลายปีกว่าจะฟื้นฟูได้ มีการเปิดพื้นที่อีก 87 ไร่เป็นแหล่งอนุบาลปลา ไม่ให้คนไปจับปลา
ถ้ารัฐจะช่วยเหลือส่งเสริมผมเห็นว่าสมควรสนอง หนุนเสริมในสิ่งที่เค้ามีอยู่แล้วมากกว่า เช่นเครื่องมือหาปลา หรือช่วยเหลืออุปกรณ์ด้านอื่นๆดีกว่า ไปส่งเสริมโดยตรง ไม่ต้องสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆ แล้วอ้างว่าช่วยเหลือพวกเค้า เหมือนมาทุบหม้อแกง ของเขา อันนี้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่
ส่งเสริมเค้าในด้านอาชีพที่เค้ามีดีกว่า ส่งเสริมอาชีพเค้า จะทำให้ชีวิตชาวบ้านเค้ากินดีอยู่ดีได้ เพราะที่ผ่านมาถ้าสร้างโรงงานจริงๆ คนในพื้นที่ถูกจ้างงานน้อยมากได้ทำก็ระดับล่างๆจะมากินค่าจ้าง 200 300 บาท กับที่เขาทำมาหากินเองไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร รายได้ก็ไม่ต่ำไปกว่ากัน อาจดีกว่าด้วย เราก็อยากไห้ชุมชนพึ่งพาตัวเองได้ ทรัพยากรที่มีอยู่ในทะเลดี ให้มีความมั่นคงทางอาหาร ที่ผ่านมาเราดำเนินชีวิตเพื่อสิ่งนี้
เช่นในช่วงโควิดที่ผ่่านมา ที่อื่นลำบากแต่เรามีทรัพย์สินทางทะเล หาปลาเอง ทำนาเอง เราก็มีข้าวปลา ทำให้พวกเราไม่เกิดผลกระทบเลยก็ว่าได้
ถ้าโรงงานจะสร้างจริงๆให้คนในพื้นที่ได้ประโยชน์จริงๆไม่ต้องสร้างใหญ่โตมาก ทำโรงงานเล็กๆที่ไม่กระทบกับพื้นที่มาก ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้ตรงกับงานของคนในพื้นที่จริง หลายโรงก็ได้ เพราะที่ผ่านมาเราผ่านอะไรต่ออะไรมามากแล้วถ้าสร้างขึ้นมา พอเกิดปัญหา เราฟ้องใครไม่ได้เลย ต้องใช้เวลาเป็นปีปีแก้ปัญหา เพราะฉนั้น มาทำข้อมูลใหม่ดีกว่า มาฟังเสียงชาวบ้านมาถามชาวบ้านแบบตรงไปตรงมา แล้วทำตามให้ตรงกับชาวบ้าน ขอให้สร้างเล็กๆ ให้อยู่ได้ ไม่กระทบคนในพื้นที่ ถ้าสร้างใหญ่โตเกินไปบอกตรงๆว่ามันไม่เหมาะสมกับพื้นที่
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส