ชลบุรี-การฝึกซ้อมแผนป้องกันการระงับเหตุภายในเรือนจำกลางชลบุรี
ที่เรือนจำกลางชลบุรี ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี นายวิวัฒน์ มหาผลสิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน เปิดการฝึกซ้อมแผนป้องกันการระงับเหตุภายในเรือนจำกลางชลบุรี โดยมีนายชาญ วชิรเดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์
ตามที่กรมราชทัณฑ์ ได้กำหนดให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน ดำเนินการซักซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายภายในเรือนจำ เป็นประจำ ปีละ ๒ ครั้ง
เพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำ/ทัณฑสถานต่าง ๆ มีความพร้อม และเกิดทักษะ สามารถปฏิบัติตนตามวิธีการ และแนวทางการแก้ไขปัญหา เมื่อเกิดเหตุร้ายต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที และไม่เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สิน มีทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม มีประสิทธิภาพ เรือนจำกลางชลบุรี ได้จัดโครงการซักซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายภายในเรือนจำกลางชลบุรี ขึ้น ซึ่งเรือนจำกลางชลบุรี เป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีอำนาจการควบคุมผู้ต้องขัง กำหนดโทษจำคุก 15 ปี ถึงตลอดชีวิต
ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ต้องขังทั้งสิ้น ประมาณ 7,000 คน ปัญหาความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในปัจจุบัน ทำให้เรือนจำมีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ออกมาบังคับใช้มากมาย เช่น การเยี่ยมญาติมีการกำหนดจำนวนญาติที่เข้าเยี่ยมในแต่ละวัน ทำให้คิดมาก เนื่องจากญาติไม่มาเยี่ยมบ้าง ญาติไม่ได้ฝากเงินให้ไม่มีเงินใช่จ่าย ทำให้ผู้ต้องขังส่วนใหญ่เกิดความเครียดสะสม ดังนั้นเรือนจำกลางชลบุรี จึงได้จำลองสถานการณ์ กรณีผู้ต้องขังก่อเหตุจลาจล
โดยมีผู้ต้องขังกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 5-10 คน มีเจ้าหน้าที่กำลังฝึกปฏิบัติอยู่ แต่กลุ่มดังกล่าวไม่เชื่อฟัง และกลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการปลุกปั่นผู้ต้องขังภายในแดน 4 ไม่ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ และไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางเรือนจำ จึงทำให้มีผู้ต้องขังก่อเหตุความวุ่นวาย ประมาณ 100 คน ทั้งส่งเสียงดังโวยวาย และขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ และใช้กำลังทำร้ายผู้ช่วยงาน มีการจุดไฟเผา จนเกิดเป็นเหตุจลาจล เมื่อเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น
ซึ่งประกอบไปด้วย อำเภอบ้านบึง โรงพยาบาลบ้านบึง สถานีตำรวจภูธรคลองกิ่ว เทศบาลตำบลหัวกุญแจ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว หน่วยงานประปา/ไฟฟ้า ในพื้นที่มูลนิธิสมาคมศีลธรรมบ้านบึง และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค ๒ จึงทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวสงบลง และเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเคลียในพื้นที่ พร้อมทั้งนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งไปยังโรงพยาบาล
การฝึกซักซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายฯ ในครั้งนี้จะทำให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ และทักษะ และนำไปใช้ในการควบคุมแก้ไขสถานการณ์ในกรณีฉุกเฉินได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพอันดีในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายใน และภายนอกเรือนจำ อันนำมาซึ่งความสามัคคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนเกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรด้วย
รุ่งรัตน์ ชลบุรี