พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.ประชาชาติ เปิดซุ้มประตูบ้านร่องสมอ จ.ขอนแก่น นำร่องเสริมสร้างสันติสุขทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ แนะรัฐบาลการพัฒนาต้องมาจากประชาชนเพื่อประโยชน์ของประชาชน
วันที่ 8 ตุลาคม 2563 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่องเลขาธิการและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาชาติ เป็นประธานในพิธีมอบซุ้มประตูบ้านร่องสมอ หมู่ที่ 10 ตำบลโนนทัน อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น หลังจากได้สร้างแล้วเสร็จ โดยมีพี่น้องประชาชนชาวบ้านในพื้นที่มาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ก่อนเริ่มกิจกรรมได้นิมนต์พระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคงต่อหมู่บ้านร่องสมอ ในการเปิดซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านใหม่เพื่อให้มีแต่สิ่งดีๆเข้าสู่หมู่บ้าน
นายนาวิน คำเวียง รองเลขาธิการพรรคและผู้อำนวยการพรรคประชาชาติสาขาขอนแก่น กล่าวรายงานว่า ซุ้มประตูหมู่บ้านร่องสมอเดิมได้พังเสียหายตามกาลเวลา ชาวบ้านร่องสมอได้ขอความอนุเคราะห์เงินทุนจากพรรคประชาชาติสาขาขอนแก่น เพื่อสร้างซุ้มประตูใหม่ทดแทนซุ้มประตูเดิมที่พังไป นายนาวิน คำเวียง ผอ.พรรคประชาชาติสาขาขอนแก่นจึงได้สนับสนุนเงินทุนในการก่อสร้างเป็นเงิน 158,200 บาท ซึ่งได้ก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 เป็นซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านประดับธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อเป็นอัตลักษณ์ของหมู่บ้าน
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ได้กล่าวเปิดพิธี และมอบกระบือ 2 ตัวแก่ชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านร่องสมอด้วย
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ยังกล่าวว่า ซึ่งทางพรรคประชาชาติเรามีหลักคิดว่าจะต้องให้ประชาชนสร้างความเจริญสู่ท้องถิ่น ตามความต้องการของหมู่บ้านและคนในพื้นที่ ไม่ใช่นำความเจริญให้กระจุกตัวเฉพาะในเมืองหรือส่วนกลาง เราต้องการจะสื่อให้รัฐบาลรู้ว่า รัฐบาลใช้งบประมาณจำนวนมากแต่ประชาชนได้ประโยชน์น้อยมาก ทั้งที่เป็นเงินภาษีของประชาชน เช่นโครงการชิมช็อปใช้ ประโยชน์สุดท้ายนำเงินไปใช้กับร้านค้าของนายทุนเป็นส่วนใหญ่
พันตำรวจเอกทวี กล่าวต่ออีกว่า เราควรนำไปใช้เป็นสวัสดิการประชาชน จะทำอย่างไรจะให้เบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จะทำอย่างไรให้การศึกษาฟรีตลอดชีพ จะทำอย่างไรให้การรักษาพยาบาลมีคุณภาพ จะทำอย่างไรให้การเดินทางของประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก และจะทำอย่างไรที่จะช่วยลดรายจ่ายของประชาชน เช่นลดค่าน้ำค่าไฟ เหล่านี้คือทิศทางของพรรคประชาชาติ
พันตำรวจเอกทวี ได้แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่กลุ่มนักศึกษาและประชาชนจะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ว่า ถ้ารัฐบาลต้องให้คนออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากความเดือดร้อนนั้นรัฐบาลต้องพิจารณาตนเอง ซึ่งการชุมนุมนั้นตามรัฐธรรมนูญได้เขียนไว้ว่าเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนสามารถชุมนุมได้ การออกมาเรียกร้องเพื่อให้อนาคตของประเทศชาติให้ดีขึ้นนั้น ถือว่าผู้เรียกร้องนั้นเป็นคนดี เขาไม่มีหน้าที่ที่จะไปพูดในสภาเขาจึงต้องลงถนน ทางพรรคฝ่ายค้านเรา ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่เราเห็นว่านี่เป็นสิทธิ์ทางประชาธิปไตย ที่ทุกฝ่ายจะต้องรับฟังเสียงของนักศึกษาและประชาชนเรียกร้อง ปัญหาใหญ่คือรัฐธรรมนูญที่ไปผูกขาดกับคนในรัฐสภาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ซึ่งประชาชนจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกของประชาชนไม่ได้ ประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ รัฐธรรมนูญยังสกัดกั้นประชาชน ทำให้มีรัฐอิสระ นั่นคือองค์กรอิสระที่ประชาชนไม่ได้เลือกมาไปสกัดกั้นการทำหน้าที่ของคนที่ประชาชนเลือกมา ไปยุบพรรคของประชาชน ไปตัดสิทธิ์ประชาชน ทั้งที่คนกลุ่มนั้นถูกแต่งตั้งโดย คสช. ก็คือการสกัดกั้นคนที่มาจากประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้มีส่วนในการพัฒนาประเทศ โดยเขียนในรัฐธรรมนูญว่าการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติให้อยู่ในการดูแลของ ส.ว. แทนที่จะให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้กำหนดชีวิตของตนเอง เหมือนเป็นการล็อคประเทศให้หยุด อยู่ในอุ้งมือผู้สูงอายุ เพราะคนเป็น ส.ว.ส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารและข้าราชการเกษียณ เราเป็นสังคมผู้สูงอายุที่ให้ผู้สูงอายุดูแลผู้สูงอายุนี่อันตรายมากเลย
พันตำรวจเอกทวี เน้นย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มุ่งกระจายงบประมาณและอำนาจสู่ท้องถิ่นและชุมชน แต่มุ่งรวมสู่ศูนย์กลาง การออกมาชุมนุมของนักศึกษาและประชาชนคือความต้องการจะจัดทำรัฐธรรมนูญ ที่เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ดูถูกสติปัญญาของคนในระดับชุมชนและหมู่บ้าน จะได้เป็นรัฐธรรมนูญที่มีการแบ่งปันทรัพยากรที่เป็นทุนชีวิตของประชาชน เช่นทรัพยากรน้ำ ที่ไม่ใช่รัฐบาลส่วนกลางไปสร้าง เมื่อสร้างเสร็จแล้วใช้งานไม่ได้ นี่คือส่วนหนึ่งของปัญหาที่ประชาชนและนักศึกษาออกมาชุมนุมเพราะรัฐบาลไปด้อยค่าประชาชน คิดว่าเด็กโง่ ไม่มีความรู้
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา