ตม.1 รวบคู่สามีภรรยาไทย ปลอมเอกสารรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย (แบบ ตม.30) และปลอมรอยตราหน่วยงานราชการ

ตม.1 รวบคู่สามีภรรยาไทย ปลอมเอกสารรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย (แบบ ตม.30) และปลอมรอยตราหน่วยงานราชการ

 

 

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรม
ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต
และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด


สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ. ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้


กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 ให้ทำการสืบสวน กรณีมีเบาะแสว่ามีการปลอมใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย (แบบ ตม.30 ซึ่งเป็นแบบการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) ซึ่งการแจ้งตามแบบ ตม.30 นี้ เป็นหน้าที่
ของเจ้าบ้าน เจ้าของ หรือผู้ครอบครองเคหสถานจะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เมื่อมีคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย จากนั้นพนักงานเจ้าหน้าที่จะออกเอกสารรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ให้กับผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน


เจ้าหน้าที่ได้เริ่มสืบสวนจากภาพถ่ายใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย (แบบ ตม.30) ที่เชื่อว่าเป็นเอกสารราชการปลอม จนกระทั่งได้พบคนงานต่างด้าว ที่ถูกระบุชื่อว่าเป็นผู้เข้าพักอาศัย (ตามข้อมูลที่ปรากฏในภาพถ่ายของเอกสารดังกล่าว) เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารของคนงานต่างด้าว และได้พบใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย (แบบ ตม.30) ที่คนงานต่างด้าวแสดงให้ดู
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารราชการปลอม คนต่างด้าวจึงได้แจ้งว่า ใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย (แบบ ตม.30)
ดังกล่าวนี้ นายจ้างได้นำมาให้ตนเพื่อไว้ใช้แสดงในกรณีที่มีพนักงานเจ้าหน้าที่มาตรวจ โดยนายจ้างเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าว และเก็บค่าดำเนินการจากคนงานต่างด้าวคนละ 150 บาท

ซึ่งคนงานต่างด้าวไม่ทราบว่าเป็นเอกสารปลอม จากนั้นคนงานต่างด้าวได้นำเจ้าหน้าที่ไปยังสำนักงานของนายจ้างซึ่งเปิดเป็นสำนักงานรับทำประกันภัยรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้พบคู่สามีภรรยาซึ่งเป็นนายจ้างของคนงานต่างด้าวในสำนักงานดังกล่าวซึ่งยังเปิดทำการอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอม ที่ตรวจยึดมาได้จากคนงานต่างด้าว ให้คู่สามีภรรยาดู ก็รับว่าตนเองเป็นผู้ปลอมเอกสารดังกล่าวขึ้นมา


จากการตรวจค้นภายในสำนักงานดังกล่าว ก็ได้พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องหลายรายการ เช่น ตราประทับชื่อและตำแหน่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง, ตราประทับชื่อของนายแพทย์ และได้พบรอยตราปลอมของหน่วยงานราชการ เช่น กรมการจัดหางาน, จังหวัดนนทบุรี เป็นต้น พบเอกสารราชการปลอมอื่นๆ เช่น ใบรับการแจ้งย้ายที่พักหรือไปอยู่ต่างจังหวัดเกิน 24 ชั่วโมง (แบบ ตม.28) นอกจากเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในสำนักงาน ก็ได้พบไฟล์เอกสาร (Word) ซึ่งเป็นหนังสือรับรองเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวของหน่วยงานราชการ (สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9), ไฟล์เอกสาร (Word) ใบรับรองแพทย์การตรวจสุขภาพแรงงาน


ต่างด้าว ในการนี้ทางภรรยาได้รับว่า ตราประทับและรอยตราหน่วยงานราชการนั้น ตนได้ว่าจ้างร้านรับทำตรายางต่างๆ ทั่วไป จัดทำขึ้น ส่วนแบบเอกสารได้ทำขึ้นโดยการนำฉบับจริงมาลบข้อความสำคัญและสแกนหรือถ่ายเอกสาร โดยใช้กระดาษ A4 ตัดให้เท่ากับขนาดจริงส่วนในช่องลงนามตนเป็นผู้กรอกและลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจเอง โดยเก็บค่าใช้จ่ายจากลูกจ้างคนต่างด้าวเป็นเงิน 150 บาทต่อคน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้คู่สามีภรรยา ทราบว่า “ร่วมกันปลอมและใช้ดวงตราหรือรอยตราของทบวงการเมือง ขององค์การสาธารณ หรือของเจ้าพนักงาน และร่วมกันปลอมเอกสารราชการ” พร้อมกับนำตัวคู่สามีภรรยาพร้อมด้วยพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินคดีต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้าน
ต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อ
ความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

 

Related posts