ปราจีนบุรี – กระเฉดชะลูดน้ำสู้พิษเศรษฐกิจ (ชมคลิป)

ปราจีนบุรี – กระเฉดชะลูดน้ำสู้พิษเศรษฐกิจ

 

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=Q43FcBP9-Ug[/embedyt]

ทั้งฤทธิ์ โควิด -19 ที่กำลังระบาด ผสมกับพิษเศรษฐกิจ ก่อนหน้าทำให้สาวพนักงานระดับผู้บริหารต้องหันมาทำอาชีพเกษตรกรทำผักกระเฉดชะลูดน้ำซึ่งเป็นอาชีพตั้งเดิมของครอบครัวขาย อาศัยที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้าใจเทคโนโลยีจึงนำความรู้ที่มีมาปรับใช้เป็นเกษตรยุคใหม่สร้างรายได้ดีเกินคาด รับออเดอร์พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ รายได้ดีกว่าทำงานแม้จะขายในราคายอดละ 1 บาท


หลังออกจากงานในโรงงานที่เคยทำมานานนับสิบปีแม้ว่ายากที่จะทำใจ แต่เมื่อเหตุการณ์บังคับ คุณรวิศรา ชุมทองกูล หรือ ก้อย ยอมรับไม่ฟูมฟายให้เสียเวลาขอเดินหน้าต่อ อาศัยว่าทางบ้าน พ่อและแม่มีอาชีพทำกระเฉดชะลูดน้ำขาย เมื่อชีวิตตนเองมาพลิกผันจนต้องออกจากงานคิดว่ากระเฉดชะลูดน้ำที่เป็นอาชีพของครอบครัวเป็นอาชีพที่น่าสนใจ คิดว่าจะทำอย่างไรให้กระเฉดชะลูดน้ำไม่ใช่ผักกระเฉดชะลูดน้ำที่ขายอยู่แค่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หรือที่ว่าถ้ามากบินทร์ ไม่ได้กินกระเฉดชะลูดน้ำเหมือนยังมาไม่ถึง และที่สำคัญทำอย่างไรให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าเป็นผักสะอาดปราศจากสารปนเปื้อน คือต้องเป็นผักแบบอินทรีย์ และสามารถควบคุมคุณภาพได้แม้กระทั่งน้ำที่ปลูก


ก้อยจึงใช้ความรู้ที่มีผสมกับการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต จนมั่นใจว่าความรู้ที่มีพอ จึงเริ่มปรับปรุงน้ำจากสระขนาดใหญ่ 7 ไร่ ลึกกว่า 5 เมตร ที่บ้านวังห้าง หมู่ 15 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้เหมาะแก่การปลูกกระเฉดเพื่อนำมาทำกระเฉดชะลูดน้ำ แม้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ ก้อย ลงมือปลูกกระเฉด โดยแยกไว้เป็นกอห่างกันพอประมาณ เพื่อให้กระเฉดเลื้อยได้นับร้อยกอ โดยการใช้ไม้ไผ่ปักและทำทุ่นเพื่อเป็นการพยุงกระเฉดให้ลอยน้ำในจุดเพื่อสะดวกในการดูแลและจัดเก็บ เมื่อได้อายุหรือดูจากความยาวของยอดกระเฉดราว 70 – 80 ซ.ม.ก็จะแยกจากกอเดิมมาจับเป็นกำๆละ 10 -15

ยอดมัดรวมกันผูกติดกับไม้ที่เตรียมไว้นำมาปักลงน้ำที่มีความลึกราว 1.5 เมตร โดยให้ยอดกระเฉดโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำประมาณ 4 นิ้วฟุต เพื่อให้กระเฉดหายใจ จากนั้นทิ้งไว้สามคืนก็จะนำขึ้นมาล้างทำความสะอาดเก็บใบและกิ่งที่ไม่ต้องการออกตัดโคนแต่ไม่ทิ้งแต่จะเก็บส่วนนี้ไว้ทำปุ๋ยอินทรีย์มาใช้กับกระเฉดในบ่ออีกครั้ง แค่นี้ก็จะได้กระเฉดชะลูดน้ำไร้นมขาวสะอาดลำต้นอวบกรอบสามารถนำไปรับประทานดิบๆจิ้มน้ำพริกหรือทำยำ ส้มตำ แต่ ที่นิยมมักจะเป็นกระเฉดชะลูดน้ำไฟแดง ที่ว่าใครมากบินทร์ ต้องกินให้ได้ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงกบินทร์ ด้วยเหตุนี้ ร้านอาหารหรือภัตตาคารส่วนใหญ่จะมี ผักกระเฉดชะลูดน้ำไว้รองรับลูกค้าที่อยากทาน


ก้อย บอกว่า กระเฉดกับกระฉูดมีความแตกต่างกันตรงที่ กระฉูดจะมีกลิ่นคล้ายสะตอเหมาะกับคนที่ชอบทานสะตอ ส่วนกระเฉดจะไม่มีกลิ่นแต่จะได้กรอบหวานเหมาะกับทุกคนซึ่งทั้งสองชนิดมีลักษณะเหมือนกันต่างกันที่กลิ่น ก้อย ยังบอกทิ้งท้ายว่า ต่อไปคำว่ามากบินทร์ต้องกินกระเฉดชะลูดน้ำ อาจจะไม่ใช่อีกต่อไปเพราะ ที่ฟาร์มกระเฉดชะลูดน้ำที่นี่ มีการบริการจัดส่งให้ผู้ที่อยากลิ้มลองรสชาติกระเฉดชะลูดน้ำว่าจะอร่อยสมคำร่ำลือหรือไม่แต่ไม่มีโอกาสมากบินทร์ ที่นี่มีบริการจัดส่งทาง เคอรี่ ส่งตรงถึงบ้านในเวลาแค่สองวัน ในสภาพและรสชาติคงเดิมเหมือนนำขึ้นมาจากสระ ใครอยากทานลองสั่งกันได้ที่ คุณก้อย โทร 083 – 7836035

 

/////////// ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี

Related posts