เชื่อมั่น และศรัทธา…เปลี่ยนวิกฤต..เริ่มชีวิตใหม่ กับ “อาจารย์โบรี ธีรมุนี” ผู้สืบสานสายวิชาไสยเวทย์เขมรโบราณ (ชมคลิป)

เชื่อมั่น และศรัทธา…เปลี่ยนวิกฤต..เริ่มชีวิตใหม่ กับ “อาจารย์โบรี ธีรมุนี” ผู้สืบสานสายวิชาไสยเวทย์เขมรโบราณ

 

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=3mm-ms3P9TI[/embedyt]

 

ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา อาจารย์โบรี ธีรมุนี พระอาจารย์หนุ่มที่ให้ความสนใจวิชาอาคมและไสยศาสตร์ ท่านได้ศึกษาจนสำเร็จ รู้แจ้ง และมีความเชี่ยวชาญในวิชาไสยศาสตร์แขนงต่างๆ โดยเฉพาะ “วิชาเมตตาสาลิกา มหานิยม” “วิชาพรายมายา” อีกทั้ง มีความเชี่ยวชาญและชำนาญ “วิชาฝังตะกรุด นะเมตตา” นอกจากนี้ ท่านยังนำวิชาอาคมที่ได้เล่าเรียน มาสงเคราะห์ช่วยเหลือชาวบ้านจนมีชื่อเสียงเล่าลือกล่าวขานถึงความมี เมตตา กรุณา และให้ความสำคัญกับทุกคนที่เข้าพบ อีกทั้งยังช่วยเหลือลูกศิษย์ และประชาชนทุกคนที่เข้ามาขอพึ่งบารมี ช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรค์นานา ให้ร้ายกลับกลายเป็นดี พลิกวิกฤติให้ชีวิตเป็นคนใหม่ ซึ่งท่านให้การช่วยเหลือประชาชนมายาวนาน ตราบถึงปัจจุบัน

​อาจารย์โบรี ธีรมุนี เล่าให้ทีมข่าวไทยเสรีฟังว่า ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2525 ที่ตำบลสา อำเภอบอริโบ เมืองกำปงชะนัง ประเทศกัมพูชา เมื่อท่านเกิดนั้นแม่ของท่านได้ฝันว่ามีคนนำตำรามาให้ ท่านมีพี่น้องร่วมกัน 4 คน โดยท่านเป็นคนที่ 3 ท่านกำพร้ามาตั้งแต่ยังไม่รู้ความ คือคุณพ่อของท่านเสียตั้งแต่ท่านยังเล็กๆ ท่านอาศัยอยู่วัดมาตั้งแต่เด็ก เมื่อวัยเด็กนั้นเวลาออกล่าสัตว์ หรือจับปลา ก็ไม่ค่อยจะได้กับเขา จนอายุท่านได้ 15 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดพระอินทร์เทพ ท่านเป็นนักเทศน์ตั้งแต่ท่านเป็นเณร

จากนั้นท่านได้สนใจในสรรพวิชาอาคมต่างๆ จึงได้ร่ำเรียนวิชาอาคมในประเทศกัมพูชาจากครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน จนอายุได้ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมี “พระครูเฮงปัช ธีปสีโล” เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านเคยเล่าว่า พระครูเฮงปัช ท่านเป็นพระแปลกน่าเลื่อมใส ตัวท่านผอมจนหนังจะติดกระดูก ไม่ว่าร้อน หนาว ฝน ท่านจะอยู่กับไฟตลอด และ “หลวงพ่อเอียงเสรียน สีลธมฺโม” เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านศึกษาธรรมมะจนสอบได้นักธรรมเอก

เมื่ออายุได้ 23 ปี ท่านจึงตัดสินใจออกธุดงค์ โดยเริ่มจากเสียมเรียบ นครวัด ชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงเขาพนมกุเลน ได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์แขนงต่างๆ ท่านบอกว่าเรียนมาเยอะ จนไม่สามารถเอ่ยชื่อครูบาอาจารย์ได้หมด หมดค่าครูในการเรียนวิชาต่างๆ เป็นเงินจำนวนมหาศาล เจอทั้งจริงบ้าง ปลอมบ้าง อีกทั้งวิชาบางอย่างก็เป็นของเก่าติดตัวท่านมา เช่น การดูดวง และคาถาบางอย่าง วิชาบางอย่างท่านก็อาศัยพื้นฐาน เช่น การรักษาด้วยตัวยาต่างๆ เพราะท่านอาศัยในป่าตั้งแต่เล็กๆ จึงสามารถใช้ตัวยาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ท่านได้เรียนวิชาจากครูบาอาจารย์หลายท่าน เช่น วิชาฝังตะกรุดทองคำกับ “พระอาจารย์วิโรจน์” ตอนท่านไปเรียนฝังตะกรุดทองคำ การยกครูการเรียนต้องเย็บปายศรีรูปนกยูง ตานกยูงฝังเพชรแท้ คิ้วนกยูงเป็นทองคำแท้ เมื่อท่านทำเสร็จครูอาจารย์คนนั้นก็ยังไม่สอน ท่านก็ไปทุกวันอาจารย์ก็ผลัดไปเรื่อย เป็นเวลาหลายเดือนจนถึงที่สุดอาจารย์เห็นความพยายามเลยบอกและสอนให้ แต่ก่อนจะสอนก็บอกว่าท่านทำได้อยู่แล้วไม่ต้องเรียนท่านก็ทำได้

 

เมื่อเรียนสำเร็จแล้วท่านก็เดินทางไปศึกษาต่อกับ “หลวงตาเเฮม” หลวงตาแฮมเป็นพระที่เก่งวิชาสาริกา วิชามหานิยม วิชาเสน่ห์อันดับ 1 ของกัมพูชา การรักษาด้วยโรควิธีต่างๆ และฝึกฝนวิชาปรายมายา จนชำนาญ และวิชาเรียกอมนุษย์ วิชาเรียกอมนุษย์นี้ท่านใช้เวลาเรียนถึง 2 ปีกว่าจะสำเร็จ เมื่อท่านฝึกสำเร็จ จึงเดินทางกลับไปจำพรรษาที่วัดพระอินทร์เทพหลายพรรษา ได้ใช้สรรพวิชาที่ได้เล่าเรียนมา โดยเฉพาะวิชาฝังตะกรุด สงเคราะห์ช่วยเหลือชาวบ้านจนมีชื่อเสียง

จากนั้นท่านก็ข้ามมาฝั่งไทย มาจำพรรษาที่จังหวัดสุพรรณบุรี หลายพรรษา และวัดศิริเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนท่านจะเดินทางมาจำพรรษาที่วัดบ้านจะเนียง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จนกระทั่งวันที่ 19 เมษายน 2557 ได้มีคณะศรัทธาญาติโยม และลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาในตัวท่านได้นิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัดสว่างโสภณ

ซึ่งสถานที่แห่งนี้ เคยมีคณะสงฆ์มาอยู่จำพรรษาก็ไม่สามารถอยู่ได้ อยู่ได้นานสุดแค่เดือนเดียว เวียนมาอยู่หลายชุด ก็ไม่มีพระที่มาอยู่ได้คือเป็นที่อาถรรพ์แรง “โยมน้อย” ซึ่งเป็นเจ้าของที่แปลงนี้ได้ถวายที่ดินผืนนี้ให้กับพระอาจารย์โบรี ธีระมุณีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อชาวบ้านในพื้นที่ และใกล้เคียงได้สามารถเข้ามาทำบุญตามประเพณีได้สะดวก รวมถึงลูกศิษย์ลูกหาจะได้เข้ามากราบมาไหว้ได้โดยสะดวก

“พระครูสมุห์โบรี ธีรมุนี” ท่านจึงได้สร้างเสนาสนะภายในวัดขึ้น ปรับปรุงพัฒนา และได้สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ศาลาเรือนรับรอง ซุ้มประตูวัด ได้มีหน่วยงานต่างๆ ในเขตสุรินทร์เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ในงานวัดทุกครั้ง ท่านจะให้มีการแจกทานขึ้นเสมอ เพราะท่านจะพูดเสมอว่า “สิ่งที่ฉันชอบคือการให้ ให้คนที่เขาเดือดร้อนหรือลำบาก เขาจะเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราให้ เขาได้กิน ได้ใช้ก็ดีแล้ว” ท่านจะแจกให้แก่ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ยากจนในเขตตำบลและใกล้เคียง หรือผู้ที่มาขอความช่วยเหลือทุกครั้งที่มีโอกาส

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ลูกศิษย์ของท่าน ได้แจ้งว่าท่านล้มป่วยลง มีปัญหาด้านสุขภาพ ป่วยหนักช่วงที่ไปบำเพ็ญภาวนาในป่าที่ประเทศกัมพูชา คณะแพทย์ได้ลงความเห็นว่าเพื่อเกิดความสะดวกต่อการรักษา จึงได้กราบขอให้ท่านลาสิกขาเพื่อมารักษาตัว ท่านจึงได้ลาสิกขาออกมาเพื่อรักษาตัวตามคำแนะนำของแพทย์

หลังจากที่ท่านได้พักรักษาตัวจนอาการป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ บรรดาลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาในตัว อาจารย์โบรี ได้ขอให้ท่านจัดทำวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และช่วยส่งพลังให้เกิดเป็นความสำเร็จในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการค้า ซื้อง่าย-ขายคล่อง ด้านครอบครัว ซึ่งท่านก็ไม่ขัดศรัทธา อีกทั้งมีใจสงสาร อยากช่วยผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้พบทางออก ประกอบกับโรงพยาบาลในจังหวัดสุรินทร์ที่ได้ดูแลท่านช่วงเกิดวิกฤต ได้ขอความอนุเคราะห์มายังท่านให้ช่วยเหลือหาทุนสร้างห้องพยาบาล และสถานศึกษาหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ขอทุนปรับปรุงโรงเรียน ติดตั้งไฟฟ้า และทุนการศึกษา

ท่านจึงได้นำมวลสารต่างๆ ที่ท่านได้เก็บรวบรวมไว้ ซึ่งถือว่ามีความเข้มข้นและเข้มขลังมากพอสมควร ผงมหาเจตภูติ และผงว่านสำคัญ ตลอดจนมวลสารของครูบาอาจารย์อีกหลายสำนักนำมาผสมจัดทำวัตถุมงคล ลงสาริกา ลงทอง ลงเสน่ห์นางไม้ อาบน้ำมนต์เดือด รักษาคุณไสย์ และตรวจดวงเสริมดวง เพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์และประชาชนที่มีความเลื่อมใสศรัทธา รวมถึงการขอโชคขอลาภ ขอความสำเร็จในการประกอบธุรกิจด้านต่างๆ โดยมีลูกศิษย์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เดินทางมาขอรับคำปรึกษาไม่ขาดสาย เพื่อหาต้นเหตุแห่งปัญหา ลูกศิษย์ที่ศรัทธาในตัวท่านต่างล้วนประสบความสำเร็จสมดั่งใจปรารถนาทุกคน

“อาจารย์โบรี ธีรมุนี” เชื่อมั่นในศาสตร์วิชาความรู้ที่ท่านได้ศึกษาจากอาจารย์ต่างๆ และที่ท่านได้เพียรสะสมบุญบารมี ได้นำความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ที่ท่านมี ช่วยพลิกชีวิตจากร้ายให้ฟื้นใหม่ จากคนที่ล้มจนแทบจะทำร้ายตัวเองกลับมาเป็นคนใหม่ที่พบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ขอแค่ให้ลูกศิษย์ทุกคนมีความเชื่อมั่น และศรัทธา “การมาพบอาจารย์โบรี ไม่ใช่แค่พบและกลับไปโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หลังจากพบอาจารย์โบรีแล้ว ทุกอย่างต้องดีขึ้น” อาจารย์โบรี กล่าว

ท่านที่มีจิตศรัทธาในตัวอาจารย์โบรี ธีรมุนี สามารถโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณภานุวัตร ขอนแก่น โทร. 09-1789-2953

สุพัตรา ศุขโข เรียบเรียง

Related posts